ค่า CRI คืออะไร นั้นเป็นหนึ่งในค่ามาตรฐานที่สำคัญไม่ต่างกับค่า LUMEN. หรือ UL   เพราะค่านี้เป็นตัวบ่งชี้การเป็นของวัตถุเมื่อแสงลงมากระทบว่ามีความชัดในการเห็นวัตถุอย่างไร โดยเฉพาะกับงานศิลปะนั้นต้องการให้เห็นวัตถุชัดเจนหรือสีของวัตถุ ลูเมน Lumen คืออะไร สำคัญกับ หลอดไฟ LED อย่างไร ค่า CRI คืออะไร CRI นั้นย่อมาจาก Colour Render Index ค่าที่ใช้ในการเปรีบเทียบ สีที่มองเห็น กับวัตถุ ที่แสดงผลภายใต้แสงจากโคมไฟหรือหลอดไฟ และนำมาเทียบกับการมองภายใต้แสงธรรมชาติจากดวงอาทิตย์ ว่ามีความแตกต่างและผิดไปเท่าไหร่ โดยค่าCRI เท่ากับ 100 คือ ค่าดัชนีของการมองภายใต้แสงจากดวงอาทิตย์ หรือแสงที่ได้จากหลอดใส้ (Incandescent) หรือ หลอด Halogen CRI ค่ายิ่งมากยิ่งทำให้การเห็นวัตถุนั้นชัดเจน ซึ่งเหมาะกับการใช้งานที่เน้นเห็นวัตถุที่ต้องการจะแสดง เช่น งานแสดงศิลปะ หรือ การติดตั้งสำหรับผักสด ผลไม้ เพื่อเห็นชัดสำหรับสีของผลไม้ ซึ่งเหมือนกับการมองวัตถุภายใต้แสงพระอาทิตย์ เครดิต https://xn--12cf5cxbjdna4dkt6d1d1g6a.com/%e0%b8%84%e0%b9%88%e0%b8%b2-cri/  

ไฟตก และ ไฟกระชาก นั้นเป็นอีกปัญหาหนึ่งที่พบได้และส่งผลทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหาย หรือทำให้ประสิทธิภาพลดลงได้ บางครั้งโคมไฟถนนที่อยู่ตามที่โล่งเมื่อเวลาฝนตกฟ้าร้อง หรือ ฟ้าผ่าบริเวณใกล้เคียง ย่อมเสี่ยงต่อ ไฟกระชากได้ จำเป็นอย่างย่ิงต้องมี Surge Protection ในการป้องกันเบื้องต้น ถึงแม้จะไม่ครอบคลุมร้อยเปอร์เซนต์ แต่สามารถช่วยได้ในขั้นต้นได้เยอะพอสมควร ไฟกระชาก คืออะไร ไฟกระชาก (Surge) คือ สภาวะไฟเกินแบบเฉียบพลันในระบบไฟฟ้า หรือหมายถึงไฟฟ้าเกิน 220 โวลต์เฉียบพลัน ส่งผลให้อุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ที่กำลังใช้งานอยู่ได้รับความเสียหายทันทีจากไฟกระชาก หรือทำให้ประสิทธิภาพของอุปกรณไฟฟ้าเสื่อมลงจากเดิม ซึ่งความรุนแรงอาจแตกต่างกันออกไป แต่เราไม่ได้สังเกตอะไร จนกระทั่งอุปกรณ์ไฟฟ้าได้รับความเสียหาย ไฟกระชากแบบช่วงสั้น (Transient) ไฟกระชากแบบช่วงสั้น เป็นประเภทที่รู้จักกันโดยทั่วไปว่าเป็นสภาวะไฟกระชาก เกิดจากการที่มีไฟฟ้าเกินเข้ามาในระบบไฟฟ้าแบบเฉียบพลัน ซึ่งอาจมีค่าที่สูงมากกว่า 1,000 โวลต์ขึ้นไป แต่ระยะในการเกิดสภาวะไฟกระชากแบบนี้จะสั้นมาก ไฟกระชากประเภทนี้จึงไม่ค่อยส่งผลกระทบต่ออุปกรณ์ไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ทั่วไป เพราะในตัวครื่องใช้ไฟฟ้าจะมีตัวระบบป้องกันไฟกระชากในลักษณะนี้ติดตั้งอยู่ภายใน อุปกรณ์จึงได้รับความปลอดภัยจากไฟกระชากแบบช่วงสั้น ไฟกระชากแบบช่วงยาว (Temporary Over Voltages) ไฟกระชากแบบช่วงยาว เป็นประเภทที่หลายคนอาจไม่ค่อยได้พบเจอ เพราะเป็นสภาวะไฟเกินเข้าในระบบไฟฟ้าเฉียบพลัน โดยค่าการเกิดไฟอาจต่ำกว่า 1,000 โวลท์ แต่ระยะในการเกิดยาวนานกว่าแบบแรก ซึ่งไฟกระชากประเภทนี้ถือว่าเป็นสาเหตุหลักที่ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าเสียหาย ถึงแม้ว่ามีค่าโวลต์ต่ำกว่าการเกิดไฟกระชากแบบช่วงสั้น

IK ค่ามาตรฐานนี้เป็นอีกหนึ่งค่ามาตรฐานในการเลือกโคมไฟ เช่น โคมไฟถนน led โดยส่วนมากจะอยู่คู่กับมาตรฐาน IP ค่า IP ย่อมาจาก Ingress Protection Ratings คือ  “มาตรฐานการป้องกันน้ำและฝุ่น” ค่า IP จะแสดงด้วยตัวเลข 2 หลักคือ รูปแบบการแสดงมาตรฐานจะเป็น IP XY  โดยที่ค่า XY ดังกล่าวแทนค่าด้วยตัวเลข 2 หลัก  เช่น IP66 ,IP68 เป็นต้น อ่านเพิ่มเติม ค่า IP คือค่ามาตรฐานอะไร สำหรับโคมไฟถนนและโคมไฟไฮเบย์ ค่ากันนำกันฝุ่นที่เรียกว่า “ค่าIP66″ ค่ากันกระแทก ที่เรียกว่า “ค่าIK10“ ค่า IK คืออะไร ค่า IK หรือ ค่ามาตราฐาน IK คืออะไร ค่า IK คือ  “มาตรฐานการป้องกันการกระแทก” IK มีความหมายว่าอะไร หมายถึง : ความสามารถของอุปกรณ์ที่รองรับการกระแทกตามรหัสของอุปกรณ์นั้นๆ โดยมีค่าดังนี้ IK00 : ไม่มีการป้องกัน IK01 :

โคมไฟหรือหลอดไฟนั้น มี beam angle มุมแสงกระจายออกต่างกันตามวัตถุประสงค์ของการใช้งาน เช่น การให้ไฟในพิพิธภัณฑ์ หรือ ป้ายส่องโฆษณา ก็จะจำกัดวงให้อยู่ในมุมที่ต้องการเพื่อส่องเน้นให้เห็นสินค้า  หรือ การค้าขายตามตลาดนัดก็จะเน้นใช้ไฟที่วงกว้างเพื่อให้เห็นหน้าร้านหรือของที่ขายดังนั้น การกระจายแสงตามมุมองศาเหล่านี้เราจึงต้องทำความเข้าใจว่า องศาขนาดไหนเหมาะกับวัตถุประสงค์ในการใช้งานของเรา beam angle คืออะไร มุมองศาแสง หรือมุมกระจายแสงนั้น คือ ความกว้างของแสงที่ออกมาจากหลอดไฟ หรือความกว้างของกระจายแสงจากแหล่งกำเนิดแสง มีความกว้างเป็นองศา ดังตัวอย่างภาพข้างล่าง ตัวอย่างภาพขอบคุณจากเว็บ โคมไฟอุตสาหกรรม.com    มุมกระจายแสง  110 – 120 องศา  เป็นมุมองศาที่เหมาะกับการใช้งานในโกดังสินค้าขนาดใหญ่ หรือ สนามกีฬา เป็นต้น เเละมีความการติดตั้งในลักษณะโคมไฟที่สูงเพื่อกระจายแสงลงมาให้ทั่วถึง มุมกระจายแสง 60 องศา เป็นมุมกระจายแสงปานกลาง ซึ่งส่วนใหญ่แล้วมักจะเป็นโคมไฟที่ติดตั้งใน รีสอร์ท อพาท์เมนต์ หอพัก  และการติดตั้งไม่สูงมากเพื่อให้การกระจายแสงได้เหมาะสม มุมกระจายแสง 45 องศา เป็นการกระจายแสงขนาดแคบ ซึ่งเหมาะกับนำไปติดตั้งในพื้นที่แคบ เช่น สวนหย่อม ห้องครัว ห้องนั่งเล่น

LED HIGH BAY โคมไฟไฮเบย์ หรือ โคมไฟไฮเบย์ เป็นโคมไฟที่ให้ความสว่างสูงและมีจำนวนลูเมนที่ค่อนข้างสูงเนื่องจากเป็นโคมไฟที่เหมาะกับการใช้งานในโรงงานอุตสาหกรรม ค่อนข้างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งใน คลังสินค้า โกดัง ฝ่ายผลิต ที่มีหลังคาค่อนข้างสูง จึงต้องการโคมไฟที่มีลูเมนและจำนวนวัตต์ค่อนข้างเยอะ โคมไฟไฮเบย์ LED HIGH BAY 100 Watt วัตต์ เหมาะกับความสูงที่เท่าไหร่ ความสูงที่แนะนำสำหรับการใช้งานซึ่งแนะนำได้ดังนี้ โคมไฟชนิดนี้เหมาะสำหรับติดตั้งกับเพดาน โดยปกติจะแขวนไว้ใต้ชายคา หรือ ใต้โครงหลังคาสูง เช่น สนามฟุตซอล หรือ สนามแบดมินตัน หรือ โกดังสินค้า คลังสินค้า ฝ่ายผลิต บางครั้งมีการเรียกได้หลายชื่อ  ไฮเบย์ หรือ โคมไฮเบย์  ซึ่งคุณสมบัติที่สำคัญของโคมไฟไฮเบย์ก็คือ เป็นโคมที่ให้แสงสว่างได้อย่างทั่วถึง โดยส่วนมากจะติดไว้บนเพดานสูง เหมาะสำหรับสถานที่ที่ต้องการการกระจายแสงมากกว่า 15 ฟีต ตัวอย่างภาพ โคมไฟไฮเบย์ ชนิด 180 LM/Watt (เครดิตภาพจาก https://www.ledinfinite.com/highbay-led-high-lumen/) มีหลายแบบ ซึ่งโดยทั่วไปแนะนำได้ดังนี้ โคมไฟไฮเบย์